ในยุคที่การแข่งขันบนหน้า Google ดุเดือด การมีข้อมูลที่แม่นยำเกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณและของคู่แข่งคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จทาง SEO และหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในวงการนี้ก็คือ Ahrefs บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักว่า Ahrefs คืออะไร ทำอะไรได้บ้าง และทำไมจึงเป็นเครื่องมือที่มืออาชีพเลือกใช้
Ahrefs คืออะไร?
Ahrefs คือเครื่องมือ SEO แบบ All-in-One ที่ใช้สำหรับวิเคราะห์เว็บไซต์, คีย์เวิร์ด, โปรไฟล์ลิงก์ (Backlink Profile), คอนเทนต์ และคู่แข่งได้อย่างละเอียด ถูกใช้โดยนักการตลาดดิจิทัลและผู้เชี่ยวชาญ SEO ทั่วโลก
จุดเด่นของ Ahrefs:
มีฐานข้อมูล Backlink ใหญ่ที่สุดในโลก อัปเดตตลอดเวลา
วิเคราะห์คีย์เวิร์ดและจัดอันดับได้อย่างแม่นยำ
สำรวจเว็บไซต์ของคู่แข่งเพื่อหาโอกาสเชิงกลยุทธ์
ฟีเจอร์หลักของ Ahrefs ที่ควรรู้
1. Site Explorer – วิเคราะห์เว็บไซต์เชิงลึก
ใช้ดูข้อมูลเช่น:
จำนวน Backlink และ Referring Domains
หน้าใดได้รับลิงก์มากที่สุด
คีย์เวิร์ดที่เว็บไซต์นั้นติดอันดับบน Google
ประวัติการจัดอันดับ (Organic Traffic Trend)
2. Keywords Explorer – วิเคราะห์คีย์เวิร์ด
ช่วยให้คุณค้นหา:
Search Volume (จำนวนการค้นหารายเดือน)
Keyword Difficulty (ความยากในการติดอันดับ)
คำค้นที่เกี่ยวข้อง (Related Keywords)
คำถามที่ผู้ใช้ค้นหา (Questions)
3. Site Audit – ตรวจสุขภาพเว็บไซต์
ตรวจสอบด้าน Technical SEO เช่น:
ความเร็วหน้าเว็บ
Meta tag หายไปหรือซ้ำกัน
หน้า 404 / Broken links
ปัญหาเรื่อง Canonical tag, Redirect chain ฯลฯ
4. Content Explorer – ค้นหาไอเดียและบทความยอดนิยม
ช่วยค้นหาคอนเทนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงในหัวข้อต่าง ๆ พร้อมข้อมูล:
จำนวน Backlink
จำนวนการแชร์บนโซเชียล
Domain Rating ของเว็บไซต์ต้นทาง
5. Rank Tracker – ติดตามอันดับคีย์เวิร์ด
สามารถดูว่า:
คีย์เวิร์ดของคุณอยู่อันดับไหนใน Google
อันดับขึ้นหรือลงในแต่ละวัน
เปรียบเทียบกับคู่แข่งที่ติดอันดับเดียวกัน
ประโยชน์ของ Ahrefs ต่อการทำ SEO
1. วิเคราะห์คู่แข่งเชิงลึก
รู้ว่าคู่แข่งของคุณ:
ใช้คีย์เวิร์ดอะไร
ได้ลิงก์จากที่ไหน
มีบทความอะไรที่ได้รับความนิยม
ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้คุณวางแผน SEO ได้อย่างชาญฉลาด
2. สร้างกลยุทธ์ Backlink ที่มีประสิทธิภาพ
Ahrefs ช่วยให้คุณหาโอกาสในการ สร้างลิงก์คุณภาพสูง โดยดูว่าเว็บไหนลิงก์ไปยังคู่แข่งแต่ยังไม่ลิงก์มาหาคุณ
3. วางแผนคอนเทนต์ตามความต้องการของผู้ค้นหา
ด้วยฟีเจอร์ Keywords Explorer และ Content Explorer คุณสามารถหา คีย์เวิร์ดที่มีโอกาสติดอันดับ และคอนเทนต์ที่ควรเขียนได้ง่ายขึ้น
4. ปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์จาก Site Audit
รายงาน SEO ปัญหาต่าง ๆ ทำให้คุณสามารถ แก้ไขเว็บไซต์ให้ถูกหลัก SEO ได้ตรงจุด
ข้อดีและข้อจำกัดของ Ahrefs
ข้อดี | ข้อจำกัด |
---|---|
ฐานข้อมูลใหญ่และอัปเดตเร็ว | ราคาค่อนข้างสูงสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก |
ใช้งานง่าย มี Dashboard ที่เข้าใจได้รวดเร็ว | ไม่มีเครื่องมือ PPC อย่าง Google Ads |
เหมาะทั้งมือใหม่และมืออาชีพ | ต้องใช้เวลาเรียนรู้คำศัพท์ SEO บ้าง |
ตัวอย่างการใช้งานจริงของ Ahrefs
เจ้าของเว็บไซต์
ตรวจสอบลิงก์ที่เสีย (Broken Link)
ติดตามอันดับคีย์เวิร์ด
ตรวจสุขภาพเว็บไซต์เป็นประจำ
นักการตลาด SEO
วิเคราะห์คีย์เวิร์ดก่อนเขียนบทความ
หาลิงก์จากเว็บไซต์ภายนอก (Link Building)
วางแผนกลยุทธ์คอนเทนต์และติดตามผล
เอเจนซี่
ใช้ทำรีพอร์ตให้ลูกค้า
วิเคราะห์คู่แข่งในแต่ละอุตสาหกรรม
ตรวจสอบคุณภาพเว็บไซต์ก่อนรับทำ SEO
หากคุณจริงจังกับการทำ SEO และต้องการข้อมูลที่แม่นยำ ลึก และวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ได้หลากหลายมิติ Ahrefs คือเครื่องมือที่ควรลงทุน เพราะไม่เพียงแค่ช่วยให้คุณเข้าใจเว็บไซต์ตัวเองได้ดีขึ้น แต่ยังเปิดเผย โอกาสที่ซ่อนอยู่ จากการวิเคราะห์คู่แข่งและแนวโน้มตลาดได้อย่างเหนือชั้น
การทำ SEO ต้องอาศัยประสบการณ์การทดลองทำศึกษาให้มากๆ แต่ถ้าใครคิดว่าเป็นเรื่องยากที่จะต้องทำเอง หรือไม่มีเวลาศึกษาทดลองทำนานๆ ปรึกษาเราเราคือผู้ให้บริการ รับทำ SEO ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี ด้วยวิธีที่ปลอดภัยและถูกกฎของ Google บริการ รับทำ SEO สายขาว ถ้าใครสนใจรับบริการ รับจ้างทำ SEO จากเราทักมาที่ Line@ ได้เลยครับ
- Mobile-Friendly มีผลต่อ SEO อย่างไร - April 29, 2025
- คำศัพท์ SEO ที่มือใหม่ควรรู้ 2025 - April 29, 2025
- ความสำคัญของ Meta Title และ Meta Description - April 29, 2025