หนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐานของการเขียนเนื้อหาบนเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ SEO แต่หลายคนกลับมองข้ามไป คือ "H1" หรือ Header Tag ระดับ 1 ซึ่งแม้จะดูเหมือนเป็นเพียงหัวข้อธรรมดา แต่จริงๆ แล้วมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เว็บไซต์ของคุณ เข้าใจง่ายขึ้นทั้งสำหรับผู้ใช้และ Google
H1 คืออะไร?
H1 คือ แท็ก HTML ที่ใช้สำหรับกำหนดหัวข้อหลักที่สุดในหน้าเว็บหนึ่งๆ โดยเปรียบเสมือน “ชื่อเรื่อง” ของเนื้อหาทั้งหมดในหน้านั้น
ตัวอย่าง H1 ใน HTML: <h1>รับทำ SEO โดย SEO Labour</h1>
ในแต่ละหน้าเว็บ ควรมี H1 เพียง 1 ตัวเท่านั้น เพื่อให้ Google เข้าใจว่า เนื้อหาหลักของหน้านี้คือเรื่องอะไร
H1 สำคัญกับ SEO อย่างไร?
1. ช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างของเนื้อหา
Google ใช้ H1 ในการ “อ่าน” และทำความเข้าใจว่า หน้านั้นๆ พูดถึงเรื่องอะไร หากใช้ H1 อย่างถูกต้อง จะช่วยให้ Google จัดอันดับเนื้อหาได้แม่นยำขึ้น
2. เป็นตำแหน่งสำคัญในการใส่คีย์เวิร์ด
การใส่ คีย์เวิร์ดเป้าหมาย ไว้ใน H1 (อย่างเป็นธรรมชาติ) จะช่วยให้ Google รู้ว่าเพจนี้เกี่ยวข้องกับคำค้นหานั้นๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทาง SEO ที่ยังใช้ได้ดีเสมอ
3. สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้
H1 เป็นสิ่งแรกที่ผู้ใช้เห็นบนหน้าเว็บ ช่วยให้รู้ทันทีว่าเนื้อหานี้เกี่ยวกับอะไร และช่วยตัดสินใจว่าจะอ่านต่อหรือไม่ ถ้า H1 ชัดเจนและน่าสนใจ ก็จะช่วยลด Bounce Rate และเพิ่ม Time on Page
4. เสริมโครงสร้างให้เนื้อหาชัดเจน
เมื่อมี H1 ที่ชัดเจน ร่วมกับการใช้ Heading Tags อื่นๆ (H2, H3, H4...) ก็จะช่วยให้ทั้งคนอ่านและบอตของ Google สแกนเนื้อหาได้ง่ายและรวดเร็ว ซึ่งส่งผลดีต่อทั้ง UX และ SEO
ถ้าหน้าเว็บไม่มี H1 จะส่งผลอย่างไรกับ SEO
หากหน้าเว็บ ไม่มี H1 เลย อาจไม่ทำให้ SEO พังทันที แต่ ถือเป็นการพลาดโอกาสสำคัญ ในการสื่อสารกับ Google และผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจส่งผลต่อ SEO ทางอ้อมได้ ดังนี้
1. Google อาจตีความเนื้อหาได้ยากขึ้น
H1 คือหัวข้อหลักที่บ่งบอกว่า หน้านั้นพูดถึงเรื่องอะไร หากไม่มี H1 เลย Google อาจต้องพยายามวิเคราะห์จากส่วนอื่นแทน เช่น <title>
หรือ <h2>
ซึ่งอาจไม่ชัดเจนเท่า H1 และนำไปสู่การจัดอันดับที่คลาดเคลื่อนจากเป้าหมาย
2. พลาดโอกาสใส่คีย์เวิร์ดในตำแหน่งสำคัญ
ตำแหน่งของ H1 เป็นจุดที่ Google ให้ความสำคัญในการจับ “คีย์เวิร์ดหลัก” หากไม่มี H1 ก็อาจ พลาดการส่งสัญญาณให้ Google รู้ว่าเพจนี้เกี่ยวกับคำค้นหาอะไร
3. กระทบประสบการณ์ผู้ใช้งาน (UX)
H1 ยังทำหน้าที่เป็นหัวข้อหลักของหน้า ถ้าไม่มี H1 ผู้ใช้ที่เข้ามาในหน้าเว็บอาจไม่แน่ใจว่าเนื้อหานี้เกี่ยวกับอะไร และอาจกดออก (Bounce) ได้ง่าย ซึ่งส่งผลลบต่อ พฤติกรรมผู้ใช้ ที่ Google ใช้ในการประเมินคุณภาพเว็บ
4. ส่งผลต่อ Accessibility (การเข้าถึง)
เครื่องมือช่วยอ่านหน้าจอ (เช่นสำหรับผู้พิการทางสายตา) จะใช้ H1 เพื่อเข้าใจว่าเนื้อหาหน้านี้เกี่ยวกับอะไร หากไม่มี H1 เลย เว็บไซต์จะไม่เป็นมิตรต่อผู้ใช้กลุ่มนี้ ซึ่งอาจกระทบถึงความน่าเชื่อถือและมาตรฐานเว็บไซต์ในภาพรวม
ไม่มี H1 ไม่ได้ทำให้ SEO พัง แต่ถือว่าพลาดจุดสำคัญของ SEO อย่างชัดเจน
มี H1 | ไม่มี H1 |
---|---|
Google เข้าใจหัวข้อได้ง่าย | Google ต้องคาดเดา |
มีจุดใส่คีย์เวิร์ดสำคัญ | พลาดส่งสัญญาณคีย์เวิร์ดหลัก |
UX ชัดเจน | ผู้ใช้อาจสับสน |
รองรับ SEO + Accessibility | ขาดโครงสร้างที่ดี |
สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาหรือไม่อยากเสียเวลานั่งทำ SEO ด้วยตนเอง สามารถปรึกษาเราได้ฟรีด้วยบริการ รับทำ SEO ซึ่งเราจะ รับทำ SEO สายขาว ให้กับเว็บไซต์ของลูกค้าเพื่อเน้นผลลัพธ์ที่ยั่งยืน สนใจรับบริการหรือสอบถามบริการ รับจ้างทำ SEO สามารถติดต่อเราผ่านทาง Line@ ได้เลยครับ
- Mobile-Friendly มีผลต่อ SEO อย่างไร - April 29, 2025
- คำศัพท์ SEO ที่มือใหม่ควรรู้ 2025 - April 29, 2025
- ความสำคัญของ Meta Title และ Meta Description - April 29, 2025