ในยุคที่ Search Engine อย่าง Google ให้ความสำคัญกับ "ความเข้าใจความหมายของเนื้อหา" มากกว่าการนับคีย์เวิร์ดแบบเดิม การใส่ข้อมูลเสริมในรูปแบบที่เครื่องมืออ่านได้ชัดเจนกลายเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งสิ่งนี้คือหน้าที่ของ Structured Data หรือ "ข้อมูลแบบมีโครงสร้าง" นั่นเอง บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักว่า Structured Data คืออะไร, มีประโยชน์ต่อ SEO อย่างไร และควรใช้แบบไหนให้ถูกต้อง
Structured Data คืออะไร?
Structured Data คือข้อมูลที่จัดเรียงในรูปแบบโค้ด (ส่วนมากเป็น JSON-LD) เพื่อให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาในหน้าเว็บได้ชัดเจนขึ้น ว่าเนื้อหานั้นเกี่ยวกับอะไร
เปรียบเทียบง่าย ๆ:
คนอ่านประโยคว่า “Apple เปิดตัว iPhone 15”
Google อาจไม่รู้ว่า Apple คือผลไม้หรือบริษัท
ถ้ามี Structured Data กำกับว่า “Apple = บริษัทเทคโนโลยี” และ “iPhone 15 = ผลิตภัณฑ์” → Google จะเข้าใจถูกต้อง → แสดงผลได้แม่นยำมากขึ้น
รูปแบบของ Structured Data ที่นิยม
1. JSON-LD (แนะนำโดย Google)
เขียนง่าย
อยู่ใน
<script>
ภายใน<head>
หรือ<body>
ใช้งานร่วมกับ WordPress และ CMS อื่น ๆ ได้ดี
2. Microdata
แทรกโค้ดลงไปในแท็ก HTML โดยตรง
อ่านยากกว่าสำหรับผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญโค้ด
3. RDFa
ใช้ใน HTML5 เหมาะสำหรับเว็บไซต์เฉพาะด้าน เช่น วิชาการ
Structured Data ส่งผลต่อ SEO อย่างไร?
1. ช่วย Google เข้าใจบริบทของเนื้อหา
เช่น บอกว่าเนื้อหานี้คือ บทความ / รีวิว / สูตรอาหาร / สินค้า / คอร์สเรียน ฯลฯ
ยิ่ง Google เข้าใจมาก → ยิ่งจัดอันดับได้ดีขึ้น
2. เพิ่มโอกาสในการแสดง Rich Results
Structured Data ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณแสดงผลแบบพิเศษใน Google เช่น:
ดาวรีวิว
คำถาม-คำตอบ (FAQ)
รายละเอียดสินค้า
สูตรอาหาร
วิดีโอ
Breadcrumbs
Event / Job Posting
3. เพิ่มอัตราการคลิก (CTR)
ผลการค้นหาที่มี Rich Snippet มักดึงดูดสายตา → เพิ่มโอกาสที่ผู้ใช้จะคลิกเข้าเว็บไซต์ของคุณมากกว่าคู่แข่ง
ประเภทของ Structured Data ที่ใช้บ่อย
1. Article – สำหรับข่าว บทความ หรือบล็อก
แสดงชื่อบทความ, ผู้เขียน, วันที่เผยแพร่
2. Product – สำหรับหน้าสินค้า
แสดงราคา, ความพร้อมในการจัดส่ง, รีวิวสินค้า
3. Review / Rating – สำหรับหน้ารีวิว
แสดงคะแนนเป็นดาวในหน้าค้นหา
4. FAQPage – สำหรับหน้าคำถาม-คำตอบ
แสดงคำถามและคำตอบในผลการค้นหาแบบขยาย
5. Recipe – สำหรับเว็บไซต์อาหาร
แสดงส่วนผสม, ระยะเวลา, พลังงาน
6. BreadcrumbList – สำหรับเส้นทางนำทาง
ช่วยให้ Google แสดง Breadcrumbs แทน URL
วิธีเพิ่ม Structured Data บนเว็บไซต์
1. ใช้ปลั๊กอิน (สำหรับ WordPress)
Yoast SEO
Rank Math
Schema & Structured Data for WP
ช่วยสร้าง Structured Data โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องเขียนโค้ดเอง
2. เขียนโค้ด JSON-LD เอง
เหมาะกับเว็บไซต์แบบ Custom ที่มีนักพัฒนาเว็บคอยดูแล
3. ใช้ Google’s Structured Data Markup Helper
สามารถเลือกประเภทข้อมูล แล้วระบบจะช่วยสร้างโค้ดให้
→ เข้าใช้ที่ https://www.google.com/webmasters/markup-helper/
วิธีตรวจสอบ Structured Data
เครื่องมือ | ความสามารถ |
---|---|
Rich Results Test | ตรวจว่า Structured Data แสดงผลใน Google ได้หรือไม่ |
Schema Markup Validator | ตรวจสอบโครงสร้างโค้ดว่าเขียนถูกต้องหรือไม่ |
Google Search Console | รายงานการแสดงผล Rich Results ของเว็บไซต์คุณ |
ข้อควรระวังในการใช้ Structured Data
อย่าใช้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับเนื้อหาจริงในหน้าเว็บไซต์ → Google อาจลงโทษ
ใช้เฉพาะ Schema ประเภทที่เหมาะกับเนื้อหาจริง
อย่าซ้อน Schema ซ้ำซ้อนหลายชั้นแบบผิดรูปแบบ
Structured Data คือ “ภาษาที่ Google เข้าใจ” ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณสื่อสารกับ Search Engine ได้ดีขึ้น → ส่งผลให้ แสดงผลพิเศษ, เข้าใจเนื้อหาได้แม่นยำ, และ ติดอันดับดีขึ้น หากคุณยังไม่ได้เพิ่ม Structured Data ลงในเว็บไซต์ ตอนนี้คือเวลาที่ควรเริ่มต้น
การทำ SEO นั้นต้องอาศัยเทคนิคมากมาย และอาศัยประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ถ้าหากไม่มีเวลาในการทำ SEO หรือไม่มีประสบการณ์มากพอสามารถปรึกษาเราได้ฟรีด้วยบริการ รับทำ SEO ของเรา ซึ่งการ รับทำ SEO ติดหน้าแรก ของเราจะทำด้วยเทคนิคสายขาว ซึ่งจะปลอดภัยต่อเว็บไซต์ของคุณทุกการอัพเดทอัลกอริทึ่มของ Google ถ้าหากสนใจ รับทำ SEO สายขาว ทักมาคุยกับเราได้ที่ Line@ ได้เลยครับ
- Mobile-Friendly มีผลต่อ SEO อย่างไร - April 29, 2025
- คำศัพท์ SEO ที่มือใหม่ควรรู้ 2025 - April 29, 2025
- ความสำคัญของ Meta Title และ Meta Description - April 29, 2025