เมื่อพูดถึงการทำ SEO หลายคนมักให้ความสำคัญกับการปรับหน้าเว็บไซต์ (On-Page SEO) แต่ในความเป็นจริง อีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลอย่างมากต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ใน Google คือ Off-Page SEO ซึ่งเน้นการสร้างความน่าเชื่อถือจากแหล่งภายนอก บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักว่า Off-Page SEO คืออะไร, มีวิธีไหนบ้าง และทำอย่างไรให้ได้ผลดี
Off-Page SEO คืออะไร?
Off-Page SEO คือการปรับแต่งและทำกิจกรรม ภายนอกเว็บไซต์ เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือ ความนิยม และความสัมพันธ์กับเว็บไซต์อื่น ๆ ซึ่งส่งผลต่อการจัดอันดับใน Search Engine
จุดประสงค์หลักของ Off-Page SEO:
เพิ่ม ความน่าเชื่อถือ (Authority) ให้เว็บไซต์
สร้าง Backlink จากเว็บไซต์อื่น
เสริม ภาพลักษณ์ของแบรนด์ ในสายตา Google และผู้ใช้งาน
ดึง ทราฟฟิกจากแหล่งภายนอก เข้าสู่เว็บไซต์
ความแตกต่างระหว่าง On-Page และ Off-Page SEO
ปัจจัย | On-Page SEO | Off-Page SEO |
---|---|---|
เน้นการทำ | ภายในเว็บไซต์ | ภายนอกเว็บไซต์ |
ควบคุมได้ | ควบคุมเองทั้งหมด | ควบคุมได้บางส่วน |
ตัวอย่าง | คีย์เวิร์ด, Meta Tag, ความเร็วเว็บ | Backlink, แชร์โซเชียล, รีวิว |
องค์ประกอบสำคัญของ Off-Page SEO
1. Backlink (ลิงก์ย้อนกลับ)
Backlink คือการที่เว็บไซต์อื่นลิงก์มายังเว็บไซต์ของคุณ ซึ่ง Google ใช้ลิงก์เหล่านี้เป็น “สัญญาณความน่าเชื่อถือ”
ประเภทของ Backlink:
Natural Backlink – ได้รับจากการอ้างอิงโดยธรรมชาติ เช่น เว็บข่าวลิงก์มาบทความของคุณ
Manual Backlink – ได้จากการแลกเปลี่ยนหรือ Outreach
Self-Created Backlink – เช่น ลิงก์จากโปรไฟล์ ฟอรัม หรือคอมเมนต์ (ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง)
คุณภาพของ Backlink ขึ้นกับ:
ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ที่ลิงก์มา (Domain Authority)
ความเกี่ยวข้องของเนื้อหา
รูปแบบ Anchor Text ที่ใช้ลิงก์
2. Social Signals (สัญญาณจากโซเชียลมีเดีย)
แม้ Google จะไม่ได้ระบุว่า "ไลก์ แชร์ หรือคอมเมนต์" ส่งผลต่ออันดับโดยตรง แต่การมีผู้พูดถึงและแชร์เว็บไซต์ของคุณบ่อย ๆ จะช่วยเพิ่ม การรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) และโอกาสได้รับ Backlink
3. รีวิวและการให้คะแนน (Review & Rating)
สำหรับเว็บไซต์ธุรกิจ โดยเฉพาะในสาย Local SEO การได้รับรีวิวดี ๆ บน Google Business Profile, Facebook, หรือเว็บไซต์รีวิว เช่น Wongnai, Pantip ฯลฯ ส่งผลดีต่อ SEO โดยตรง
วิธีทำ Off-Page SEO ให้มีประสิทธิภาพ
1. ทำ Link Building อย่างปลอดภัย
เลือกเว็บไซต์ที่มี Domain Authority สูง
หลีกเลี่ยงเว็บสแปม หรือ PBN คุณภาพต่ำ
ใช้เทคนิค White Hat เช่น Guest Post, การทำคอนเทนต์คุณภาพ
2. แชร์คอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย
แชร์บทความใน Facebook, X (Twitter), Instagram, LinkedIn
ใช้รูปภาพ วิดีโอ หรือ Infographic ดึงความสนใจ
กระตุ้นให้เกิดการบอกต่อ
3. สร้างความสัมพันธ์กับเว็บไซต์อื่น
เข้าร่วมกลุ่มหรือคอมมูนิตี้ที่เกี่ยวข้อง
คอมเมนต์หรือแลกเปลี่ยนความรู้ในบล็อก/ฟอรัม
ร่วมโปรเจกต์ หรือแลกเปลี่ยนบทความกับเว็บไซต์ในอุตสาหกรรมเดียวกัน
4. จัดทำ PR หรือบทความข่าว (Digital PR)
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์หรือบทความลงเว็บไซต์ข่าวหรือบล็อกชื่อดัง
เป็นการสร้างลิงก์พร้อมทั้งสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ในวงกว้าง
เครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์ Off-Page SEO
เครื่องมือ | ความสามารถ |
---|---|
Ahrefs | วิเคราะห์ Backlink, Domain Rating |
SEMrush | ตรวจสอบลิงก์, วิเคราะห์คู่แข่ง |
Moz | ดูค่า DA (Domain Authority) และ Spam Score |
Google Search Console | ตรวจสอบลิงก์ภายนอกที่ชี้เข้ามา |
BuzzSumo | ค้นหาเนื้อหาที่ได้รับการแชร์มากที่สุด |
ข้อควรระวังในการทำ Off-Page SEO
หลีกเลี่ยงการซื้อ Backlink แบบสุ่ม
แม้จะดูง่าย แต่ Google อาจพิจารณาว่าเป็นการละเมิดนโยบาย และส่งผลให้เว็บไซต์ถูกลดอันดับหรือโดนแบน
อย่าทำ Spam Comments หรือ Link Farms
การแปะลิงก์ในคอมเมนต์แบบไม่เกี่ยวข้อง หรือใช้เว็บเครือข่ายลิงก์ปลอม (Link Farm) อาจทำให้เว็บไซต์เสียคะแนนแทนที่จะได้อันดับ
Off-Page SEO คือการสร้างเครือข่าย ความน่าเชื่อถือ และกระแสความนิยมให้กับเว็บไซต์จากแหล่งภายนอก เช่น ลิงก์จากเว็บอื่น รีวิว หรือการแชร์ผ่านโซเชียล เมื่อทำร่วมกับ On-Page SEO อย่างมีระบบ จะช่วยเสริมพลังให้เว็บไซต์ของคุณ ติดอันดับบน Google ได้เร็วและมั่นคงยิ่งขึ้น
แต่ถ้าใครไม่มีความรู้ทางด้าน SEO เลย และอยากให้เว็บไซต์ธุรกิจของคุณติดหน้าแรก Google สามารถปรึกษาเราพร้อมกับบริการ รับทำ SEO ติดหน้าแรก Google ด้วยเทคนิคสายขาว ติดอันดับนานกว่าเทคนิคอื่นๆ ธุรกิจน่าเชื่อถือ สร้างกำไรในระยะยาว หากใครสนใจบริการ รับจ้างทำ SEO ติดต่อเราได้ที่ Line@
- Mobile-Friendly มีผลต่อ SEO อย่างไร - April 29, 2025
- คำศัพท์ SEO ที่มือใหม่ควรรู้ 2025 - April 29, 2025
- ความสำคัญของ Meta Title และ Meta Description - April 29, 2025