Search Volume คืออะไร? ปัจจัยสำคัญในการเลือกคีย์เวิร์ดให้ติด SEO

หนึ่งในคำที่นักทำ SEO และสายคอนเทนต์ต้องเจอทุกวันคือ Search Volume เพราะมันเป็นตัวชี้วัดว่า “คีย์เวิร์ดนี้มีคนสนใจมากน้อยแค่ไหน” และช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าควรเลือกคีย์เวิร์ดนั้นมาใช้ในบทความหรือไม่ ถ้าอยากทำ SEO ให้ได้ผล เข้าใจ Search Volume คือขั้นตอนแรกที่ต้องรู้ให้ลึก

Search Volume คืออะไร?

Search Volume คือปริมาณการค้นหาของคำหรือวลี (Keyword) ที่ผู้ใช้งานพิมพ์ลงใน Search Engine เช่น Google โดยวัดเป็นจำนวนครั้งต่อเดือน (Monthly Search Volume)

ตัวอย่างเช่น:

  • คำว่า “รองเท้าวิ่ง” มี Search Volume = 12,000
    → แปลว่า มีคนค้นหาคำนี้เฉลี่ย 12,000 ครั้ง/เดือน

  • คำว่า “เทคนิค SEO 2025” มี Search Volume = 150
    → แปลว่า มีความเฉพาะกลุ่ม เหมาะกับบทความเฉพาะทาง

ความสำคัญของ Search Volume ต่อ SEO

1. บอกความนิยมของคีย์เวิร์ด

ยิ่ง Search Volume สูง = ยิ่งมีโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มาก
แต่ก็หมายถึงมี คู่แข่งสูง ด้วยเช่นกัน

2. ช่วยวางแผนคอนเทนต์ได้แม่นยำ

คุณสามารถเลือกหัวข้อบทความที่มีคนค้นหาจริง และหลีกเลี่ยงการเขียนในเรื่องที่ไม่มีคนสนใจ

3. ช่วยประเมินศักยภาพของทราฟฟิก

หากคุณติดอันดับในคีย์เวิร์ดที่มี Search Volume สูง คุณก็มีโอกาสได้ผู้ชมเข้ามาเยอะ → เพิ่มยอดขายหรือโอกาสทางธุรกิจ

ประเภทของ Search Volume ที่ควรรู้

1. Exact Match Search Volume

เป็นจำนวนการค้นหาที่ใช้ คีย์เวิร์ดตรงตัว เช่น
ผู้ค้นหาพิมพ์ว่า “รองเท้าวิ่งผู้หญิง” แบบเป๊ะ ๆ

2. Broad Match Search Volume

รวมการค้นหาแบบใกล้เคียง เช่น
คำว่า “รองเท้าวิ่ง” อาจรวมถึง “รองเท้าวิ่ง adidas”, “รองเท้าวิ่งผู้ชาย”

3. Search Volume ตามภูมิภาค

บางคีย์เวิร์ดอาจได้รับความนิยมในบางจังหวัดหรือประเทศเท่านั้น เช่น
“สตรอเบอร์รี่ เชียงใหม่” อาจมี Search Volume สูงเฉพาะในภาคเหนือ

วิธีเช็ก Search Volume ด้วยเครื่องมือยอดนิยม

1. Google Keyword Planner (ฟรี)

  • ใช้คู่กับ Google Ads

  • แสดงช่วง Search Volume เช่น 1k–10k

  • เหมาะสำหรับดูไอเดียคีย์เวิร์ดเบื้องต้น

2. Ubersuggest

  • ใช้งานง่าย

  • แสดง Search Volume พร้อม SEO Difficulty, CPC

  • เหมาะสำหรับนักเขียนและผู้เริ่มต้นทำ SEO

3. Ahrefs / SEMrush (ระดับมืออาชีพ)

  • แสดงข้อมูล Search Volume รายเดือนแม่นยำ

  • วิเคราะห์คู่แข่งได้

  • มีฟีเจอร์เปรียบเทียบคีย์เวิร์ดแบบลึก

Search Volume สูงหรือต่ำ แบบไหนดีกว่ากัน?

 

Search Volumeข้อดีข้อเสีย
สูง (10,000+)เข้าถึงผู้ใช้จำนวนมากแข่งขันสูง ติดอันดับยาก
ปานกลาง (1,000–5,000)สมดุลระหว่างคนค้นหาและความยากต้องเลือกคีย์เวิร์ดให้เหมาะ
ต่ำ (10–500)คู่แข่งน้อย ติดง่ายทราฟฟิกน้อย เหมาะสำหรับเฉพาะกลุ่ม

ข้อแนะนำ:

  • สำหรับเว็บไซต์ใหม่: เน้น Long-tail Keyword ที่มี Search Volume ปานกลางหรือต่ำ

  • เว็บไซต์ใหญ่หรือมี Authority: เล็งคีย์เวิร์ดที่มี Search Volume สูงขึ้นได้

ปัจจัยอื่นที่ต้องพิจารณาร่วมกับ Search Volume

1. Keyword Difficulty (ความยากในการติดอันดับ)

แม้คีย์เวิร์ดจะมี Search Volume สูง แต่ถ้าคู่แข่งเยอะเกินไป ก็อาจต้องใช้เวลานานในการติดอันดับ

2. Search Intent (เจตนาของผู้ค้นหา)

เลือกคีย์เวิร์ดที่ตรงกับ เป้าหมายของผู้ใช้งาน เช่น:

  • ต้องการซื้อ → ใช้คำว่า “ซื้อรองเท้าวิ่ง”

  • ต้องการความรู้ → ใช้คำว่า “วิธีเลือกซื้อรองเท้าวิ่ง”

Search Volume เป็นข้อมูลพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ในการทำ SEO เพราะมันช่วยให้คุณรู้ว่า "ตลาดกำลังต้องการอะไร" และช่วยให้คุณเลือกคีย์เวิร์ดที่ทั้งตรงกลุ่มเป้าหมาย และมีโอกาสติดอันดับได้จริง การรู้จักวิเคราะห์ Search Volume อย่างถูกวิธี จะช่วยให้ทุกบทความของคุณมีโอกาสสร้างทราฟฟิกและผลลัพธ์ทางธุรกิจมากขึ้น

สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาหรือไม่อยากเสียเวลานั่งทำ SEO ด้วยตนเอง สามารถปรึกษาเราได้ฟรีด้วยบริการ รับทำ SEO ซึ่งเราจะ รับทำ SEO สายขาว ให้กับเว็บไซต์ของลูกค้าเพื่อเน้นผลลัพธ์ที่ยั่งยืน สนใจรับบริการหรือสอบถามบริการ รับจ้างทำ SEO สามารถติดต่อเราผ่านทาง Line@ ได้เลยครับ

SEO Labour